วิวสุดปังที่พังงาเมืองสวยในหุบเขา
จังหวัดพังงา เป็นจังหวัดเล็ก ๆ ที่อยู่ติดกับภูเก็ต ใช้เวลาเดินทางระหว่างกันเพียงแค่ 1 ชั่วโมง โดยพังงากับภูเก็ตเชื่อมกันด้วยสะพานสารสิน ถึงแม้จะเป็นจังหวัดเล็ก แต่บอกเลยว่ามีดีเกินตัวมาก จิ๋วแต่แจ๋ว! พังงามีทรัพยากรทางธรรมชาติที่หลากหลายและอุดมสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นเมืองที่รอบล้อมด้วยภูเขาน้อยใหญ่ บรรยากาศยามเช้าเหมาะสำหรับนั่งจิบกาแฟดูหมอกบนยอดเขา เพราะพังงาเป็นจังหวัดที่ฝนตกค่อนข้างชุมหากเทียบกับจังหวัดอื่น ทำให้ป่าไม้ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ นอกจากนี้ ยังมีทะเล เกาะเล็กเกาะน้อย ถ้ำ น้ำตก ชายหาด และป่าโกงกางอีกมากมาย!
ก่อนที่พังงาจะมาเป็นจังหวัดท่องเที่ยวอย่างในปัจจุบัน ในอดีตช่วงก่อนกรุงรัตนโกสินทร์พังงาเป็นแค่เมืองแขวงพังงาที่อยู่ภายใต้การดูแลของเมืองตะกั่วป่า จนถึงช่วงรัชกาลที่ 1 ได้สถาปนาเป็นเมืองพังงาเทียบเท่ากับเมืองตะกั่วป่า อาชีพของชาวพังงาในอดีตจะเป็นอุตสาหกรรมการทำเหมืองแร่ประเภทดีบุก มีศูนย์กลางในการแลกเปลี่ยนสินค้าที่ตะกั่วป่า นอกจากเป็นสถานที่แลกเปลี่ยนสินค้าแล้ว ยังเป็นการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมอีกด้วย เพราะมีทั้งชาวไทย ชาวจีน ชาวอินเดีย รวมทั้งชาวอาหรับที่เข้ามาอาศัยและทำมาหากินกันที่นี่
หลายคนอ่านมาถึงตอนนี้แล้ว ร่างกายคงตอบสนองด้วยการมีอาการชีพจรลงเท้ากันแล้วแน่ ๆ ไปดูกันว่าเดินทางไปพังงาไปอย่างไร ไปถึงพังงาแล้วไปไหน ไปทำอะไรดี! บอกเลยว่ารวบรวมสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ ๆ ฉบับอัพเดทไม่เหมือนคนอื่นแน่นอน!
เที่ยวพังงา
โดยเครื่องบิน
โดยรถไฟ
โดยรถบัส
การเดินทางไปพังงา
ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวพังงาจะมี 2 ประเภท คือ นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวภูเก็ตแล้วเที่ยวพังงาต่อ อีกประเภทหนึ่งคือเดินทางมาเที่ยวพังงาโดยเฉพาะ โดยอาจจะมาจากกรุงเทพฯหรือจังหวัดอื่น ๆ ดังนั้นเลยแนะนำวิธีการเดินทางรวม ๆ ทั้งจากภูเก็ต จากกระบี่ จากสุราษฎร์ธานี โดยที่มีต้นทางคือกรุงเทพฯ
✈️ เดินทางด้วยเครื่องบิน
เดินทางไปพังงาด้วยเครื่องบินเป็นวิธีที่คนนิยมมากที่สุด เพราะประหยัดเวลาได้ดี แต่ว่าพังงาไม่มีสนามบินเป็นของตัวเอง ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องนั่งเครื่องบินมาลงที่จังหวัดใกล้เคียง คือ ภูเก็ต หรือกระบี่ แล้วนั่งรถโดยสารต่อมายังพังงา
ท่าอากาศยานภูเก็ต
สนามบินภูเก็ตเป็นเส้นทางที่คนนิยมเลือกใช้หากจะมาเที่ยวพังงา จากสนามบินภูเก็ตเข้าตัวเมืองพังงาก็ไม่ได้ไกลมากเท่าไหร่เพียง 1 ชั่วโมง แถมเช่ารถได้ง่าย สะดวก และมีตัวเลือกให้เรามากกว่า ดังนั้นนักท่องเที่ยวจึงนิยมมาลงเครื่องที่สนามบินภูเก็ตและเช่ารถต่อ สายการบินที่มีเส้นทางภายในประเทศมายังท่าอากาศยานภูเก็ต ได้แก่
- ไทยแอร์เอเชีย มีเส้นทางบินจากกรุงเทพฯ (ดอนเมือง/สุวรรณภูมิ)
- ไทยไลอ้อนแอร์ มีเส้นทางบินจากกรุงเทพฯ (ดอนเมือง)
- นกแอร์ มีเส้นทางบินจากกรุงเทพฯ (ดอนเมือง)
- ไทยสมายแอร์เวย์ มีเส้นทางบินจากกรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ)
- ไทยเวียตเจ็ทแอร์ มีเส้นทางบินจากกรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ)
หากไม่อยากเช่ารถยนต์ขับเองก็สามารถนั่งรถแอร์พอร์ตบัสจากสนามบินภูเก็ตเข้าตัวเมืองภูเก็ต เพื่อไปต่อรถโดยสารประจำทางหรือรถทัวร์ (เส้นไปกรุงเทพฯ หรือชุมพร) ได้ที่สถานีขนส่งภูเก็ต 2 ได้เลย เรียกว่าสะดวกสบายมีแอร์เย็นโดยไม่ต้องขับรถเอง นั่งมาลงที่สถานีขนส่งโคกกลอยหรือลงสถานีขนส่งพังงา สามารถเช็คตารางรถและรายละเอียดอื่น ๆ ได้ตามลิ้งก์ด้านล่าง
- รถโดยสารรุ่งกิจทัวร์ (เส้นทางภูเก็ต-ชุมพร) หรือซื้อตั๋วได้ที่สถานีขนส่ง
- รถโดยสารของบขส. 999 (สามารถติดต่อซื้อตั๋วได้ที่เคาเตอร์ในสถานีขนส่งได้)
ท่าอากาศยานกระบี่
สนามบินขนาดเล็กที่เป็นจุดหมายสำหรับคนที่เที่ยวกระบี่แล้วเที่ยวพังงาต่อ เมื่อเราเดินทางถึงสนามบินกระบี่แล้ว สามารถเดินออกมารอรถโดยสารที่จุดรอรถด้านนอกได้เลย เดินออกมาไม่ไกลประมาณ 100 เมตรหรือจะเช่ารถกับเคาเตอร์ที่สนามบินเพื่อจะได้ขับรถง่ายๆแบบส่วนตัวสบาย ๆ มาพังงาได้เลย ระยะทางจากสนามบินกระบี่มาตัวเมืองพังงาจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
ท่าอากาศยานสุราษฎร์ธานี
ถ้ามาลงที่สนามบินสุราษฎร์ธานีจะใช้เวลาไปพังงาค่อนข้างนานกว่าภูเก็ตและกระบี่ โดยเมื่อเดินทางถึงสนามบินสุราษฎ์ฯแล้ว สามารถเดินออกมาซื้อตั๋วรถเพื่อเข้าไปต่อรถโดยสารที่สถานีขนส่งต่อไปพังงาได้เลย หากใครพักที่เขาหลักให้ซื้อตั๋วรถที่วิ่งเส้นทางสุราษฎร์ฯ-ภูเก็ต เนื่องจากรถจะผ่านเขาหลัก หากซื้อรถทัวร์ที่วิ่งเส้นทางเกาะสมุย-ภูเก็ต หรือ กรุงเทพฯ-ภูเก็ต จะไม่ผ่านเขาหลัก แต่จะไปลงที่สถานีขนส่งพังงาและสถานีขนส่งโคลกกลอย
รถโดยสารจากสนามบินสุราษฎร์ฯ เข้าตัวเมือง (สถานีขนส่ง) เป็นรถโดยสารปรับอากาศ ใช้เวลาประมาณ 40-45 นาที สามารถหารอบเวลาติดต่อได้ที่เบอร์ 093 5823617
🚆 เดินทางด้วยรถไฟ
สถานีรถไฟที่ใกล้ที่คือสถานีรถไฟสุราษฎร์ธานี เพราะพังงาไม่มีรถไฟผ่าน จากสถานีรถไฟสุราษฎร์ธานีเราสามารถนั่งรถสองแถวหรือรถโดยสารไปที่สถานีขนส่งได้ ระยะทางจากสถานีขนส่งสุราษฎร์ฯ ไปพังงาจะประมาณ 2 ชั่วโมง วิธีการเดินทางโดยรถไฟค่อนข้างใช้เวลานาน บวกกับนั่งรถไฟจากกรุงเทพฯมาถึงสุราษฎร์ธานีใช้เวลาประมาณ 9-12 ชั่วโมงแล้วแต่ประเภทรถไฟว่าเราจะใช้รถไฟเร็ว รถไฟด่วนพิเศษ หรือรถไฟแบบธรรมดา รวม ๆ ระยะเวลาการเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปพังงาด้วยรถไฟ (และต่อรถโดยสาร) แล้วก็ประมาณ 14 ชั่วโมง สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซด์การรถไฟแห่งประเทศไทย
🚌 เดินทางด้วยรถบัสประจำทาง
เดินทางออกจากกรุงเทพฯ ด้วยรถทัวร์ เป็นวิธีที่ค่อนข้างง่ายและสะดวก เนื่องจากเราซื้อตั๋วครั้งเดียวจบ ขึ้นรถปุ๊บ หลับปั๊บ ตื่นมาก็ถึงพังงาเลย! ปัจจุบันนี้มีหลายบริษัทที่เปิดให้บริการ เราสามารถเลือกได้ว่าจะออกเดินทางช่วงเวลาไหนก็ได้ แนะนำให้ขึ้นรถทัวร์ที่สถานีขนส่งสายใต้ใหม่จะใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปพังงาประมาณ 10-11 ชั่วโมง และยังเลือกสถานที่ปลายทางได้เลยว่าจะลงที่ไหน ใครพักที่เขาหลักก็สามารถแจ้งพนักงานตอนจองได้เลย หากพักในตัวเมืองตะกั่วป่า ให้ลงที่สถานีขนส่งพังงาหรือสถานีโคกกลอย อ่านข้อมูลรถทัวร์จากกรุงเทพฯ ไปพังงาได้ด้านล่าง อ่านดูได้เลย
- บริษัทขนส่งจำกัด 999 (สถานีขนส่งสายใต้ใหม่)
โทร 02-422-4400-1, 02-984-6122
จองตั๋ว 02-422-4444, 02-262-3456
- บริษัทภูเก็ตท่องเที่ยว (สถานีขนส่งสายใต้ใหม่)
โทร 02-8859025-6
- บริษัทบัสเอ็กซ์เพลสจำกัด (สถานีขนส่งสายใต้ใหม่)
โทร 02-894-6101-3
ไปพังงานี่ไม่ยากอย่างคิดใช่ไหม! อย่างไรก่อนเดินทางไปเที่ยวพังงา ลองศึกษาคร่าว ๆ ว่าจะไปพังงาด้วยเครื่องบิน? รถไฟ? หรือรถทัวร์ดีถึงจะตอบสนองต่อข้อจำกัดด้านต่าง ๆ ของเรา เช่น เรื่องเวลาและเงินในกระเป๋า เราไปดูกันต่อเลยดีกว่าว่าถึงพังงาแล้วเอาไงต่อ!
วิธีท่องเที่ยวในพังงา ไปยังไงดี?!
หากใครจะมาเที่ยวพังงาแนะนำให้เช่ารถจากภูเก็ตหรือกระบี่ แล้วขับเข้าเมืองพังงาจะสะดวกที่สุด เพราะมีตัวเลือกรถเช่าให้เราเลือกหลากหลายบริษัท ส่วนรถโดยสารสาธารณะจะมีไม่เพียงพอต่อความต้องการและไม่สาสามารถไปได้ในทุกสถานที่ท่องเที่ยว อย่างไรก็ตามอีกทางเลือกหนึ่ง คือ สามารถสอบถามที่โรงแรมที่เราเข้าพักเรื่องการเช่ารถยนต์เที่ยวกับพนักงาน โดยส่วนมากโรงแรมจะมีรถให้เราได้เช่าขับเที่ยวกัน ก่อนตัดสินใจจ่ายเงินก็แนะนำให้ถ่ายรูปเช็คสภาพรถก่อนขับไว้ด้วยนะ
15 ที่เที่ยวพังงาและกิจกรรมห้ามพลาด 2021!
1. นอนฟังเสียงคลื่นทะเลชิล ๆ เงียบ ๆ ที่เขาหลัก
เขาหลักเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัดพังงา ด้วยบรรยากาศเงียบ ชายหาดสวย น้ำใส ทรายขาว พูดมาขนาดนี้ก็คงไม่ต้องสงสัยใช่มั้ย ว่าทำไมเขาหลักได้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตที่คนนิยมไปกันไม่ว่าจะคนไทยหรือต่างชาติ ถึงแม้ว่าเขาหลักจะได้รับผลกระทบอย่างหนักจากเหตุการณ์สึนามิในปี พ.ศ. 2547 แต่ว่าหลังจากมีการร่วมมือร่วมใจกันฟื้นฟูธรรมชาติที่นี่ก็กลับมาสวยงามดังเดิม เขาหลักถึงแม้จะเงียบแต่ว่ามีกิจกรรมให้เราทำเพียบเลย อาหารดี บรรยากาศริมทะเลสวย ๆ หากแวะไปเขาหลัก อย่าลืมแวะถ่ายรูปที่จุดเช็คยอดฮิตอย่าง ‘ประภาคารเขาหลัก’ หรือแวะไปเดินเล่นชิล ๆ ที่หาดคึกคัก
เราได้ทำการรวบรวมที่พักให้ทุกคนนำไปประกอบการตัดสินใจ สามารถเช็ครายละเอียดตามลิ้งก์ด้านล่างได้เลย
- โรงแรม La Flora Khaolak
ติดต่อได้ที่เบอร์ 076 428 000
- โรงแรม Eden Beach Khaolak
ติดต่อได้ที่เบอร์ 076 410 186
- โรงแรม Ramada Resort By Wyndham Khaolak
ติดต่อได้ที่เบอร์ 076 427 777
- โรงแรม JW Mariott Khaolak
ติดต่อได้ที่เบอร์ 076 584 888
- โรงแรม Devasom Khaolak
ติดต่อได้ที่เบอร์ 076 592 277
2. ถ่ายรูปกับหาดทรายสีดำสุดฮิต
หาดทรายดำ หรืออีกชื่อหนึ่งคือหาดนางทอง เรียกว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยว UNSEEN Thailand ที่มาของทรายสีดำมาจากในอดีตเมืองตะกั่วป่าเป็นแหล่งอุตสาหกรรมทำเหมืองแร่ที่สำคัญและทำการค้าขายแร่กับต่างชาติมากมาย ทั้งขุดจากพื้นดินหรือทะเล ทำให้ขี้แร่หลุดลอยออกมาจากเศษแร่ ดังนั้นหาดทรายดำที่เราเห็นก็คือขี้แร่ หาดทรายดำเป็นจุดถ่ายรูปที่กำลังมาแรงแบบสุด ๆ เนื่องจากความอัศจรรย์ของทรายที่เป็นสีดำนี้ ถ้าพกหมวกสานสวย ๆ เดรสสวย ๆ ไปถ่ายรูปคือปัง!
3. เล่นเซิร์ฟสุดมันส์ที่ Memories Beach
กิจกรรมสุดฮิตของเหล่าคนรักการเล่นกีฬาทางน้ำ คือ การเล่นเซิร์ฟบอร์ดที่หาด Memories Beach ด้วยบรรยากาศหาดทอดยาวที่เดินกันจนเหนื่อยแบบเรียกว่าสุดตา ก็จะมีร้านอาหารกึ่งบาร์เปิดให้บริการชิลๆอีกด้วย แต่ไฮไลต์สุดเด็ดของที่นี่ที่เรียกว่าฮอตฮิตมากๆในหมู่ของชาวต่างชาติและคนไทย คือ เล่นเซิร์ฟโต้คลื่น หากใครไม่เคยเล่นมาก่อนก็สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ที่ร้านอาหารเพื่อเรียนรู้เรื่องการเตรียมตัวก่อนเล่นและข้อควรระวังอื่นๆ บอกเลยว่าหากใครแวะมาเที่ยวพังงา ควรจะไปลองสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆกับหาดแห่งนี้ ห้ามพลาดเลย
4. ดำน้ำสำรวจโลกใต้น้ำที่เกาะสิมิลัน
หมู่เกาะสิมิลันหรือเกาะเก้า ประกอบไปด้วยเกาะใหญ่น้อย 9 เกาะด้วยกัน เกาะทั้งเก้าเรียงตัวตามแนวทิศเหนือไปทิศใต้ ได้แก่ เกาะบอน เกาะบางู เกาะสิมิลัน เกาะปายู เกาะห้า เกาะเมียง เกาะปาหยัน เกาะปายัง และเกาะหูยง ปัจจุบันมีการเปิดให้นักท่องเที่ยวได้ไปสัมผัสกับความสวยงามของโลกใต้ทะเลได้ 6 เกาะ ส่วนเกาะที่เหลือทางอุทยานฯได้ปิดไม่ให้เข้าชม เพื่อเป็นพื้นที่อนุรักษ์ของสัตว์ทะเล สิมิลันเป็นสถานที่ในฝันของใครหลายคนที่มาเยือนด้วยเหตุผลหลากหลายประการ บางคนมาเพื่อดูความสวยของน้ำทะเลสีครามกับตาตัวเอง บางคนมาเพื่อพักกายและพักใจหรือบางคนที่มาดำน้ำลึกเพื่อชื่นชมเหล่าสัตว์ใต้ท้องทะเลและปะการังที่ขึ้นชื่อว่าอุดมสมบูรณ์อีกแห่งหนึ่งของโลก นอกการดำน้ำแล้วยังมีกิจกรรมอื่นอีกมากมาย เช่น การนอนบนหาดทรายสีขาวนวลแบบชิล ๆ กับบรรยากาศเสียงคลื่นทะเลซัดเบา ๆ หรือจะเดินขึ้นไปถ่ายรูปกับจุดชมวิวขึ้นชื่อของสิมิลันอย่างหินเรือใบและอ่าวเกือก (ชาวต่างชาติจะรู้จักในชื่อของ Sailing Rock และ Donald Duck Bay) ด้วยการเดินจากตัวหาดเพียงแค่ 10 - 15 นาทีก็จะได้เห็นวิวมุมกว้างของเกาะแปดและสามารถมองเห็นเกาะเก้า เมื่อมาพังงาแล้วต้องไม่พลาดมาเกาะสิมิลัน รับรองว่าเห็นน้อนนีโม่กันจนเก็บเอาไปฝันแน่
หากใครสนใจอยากไปเที่ยวสิมิลัน สามารถกดเพื่อดูรายละเอียดและซื้อแพคเกจทัวร์เกาะสิมิลันแบบเต็มวันด้วยเรือสปีดโบ๊ท
5. ตามหาน้องนีโม่และสัมผัสวิถีชีวิตของชาวมอแกนที่หมู่เกาะสุรินทร์
จริง ๆ แล้วต้องเรียกว่าเป็นหมู่เกาะสุรินทร์ เนื่องจากเราจะไปดำน้ำตื้นกันหลายจุดม้ากกกกกกก.... เอาให้เต็มอิ่มไปเลย เริ่มต้นกับการดำน้ำดูธรรมชาติสวยงามของเหล่าดอกไม้ทะเลและปะการังหลากหลายชนิด เช่น ปะการังโต๊ะ ปะการังกิ่ง ปะการังจานที่อ่าวสับปะรด หรือจะไปดำน้ำเพื่อดูความสวยงามของเหล่าสัตว์น้ำใต้ทะเลที่อ่าวแม่ยาย ซึ่งเป็นอ่าวที่ขึ้นชื่อในความสวยงามและเป็นจุดที่ต้องไปในใจของใครหลายคนที่ต้องหลงรักน้องปะการัง ปลานกแก้ว ปลาไหลมอร์เร่ย์ และปลาดาวหนาม
หมู่เกาะสุรินทร์อยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ ในพื้นที่อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา ตั้งอยู่ในทะเลอันดามัน ประกอบไปด้วยเกาะ 5 เกาะ คือ เกาะสุรินทร์เหนือ เกาะสุรินทร์ใต้ ซึ่งเป็นสองเกาะใหญ่ และมีเกาะบริวารได้แก่ เกาะรี (เกาะสต๊อร์ค) เกาะไข่ (เกาะตอรินลา) และเกาะกลาง (เกาะปาจุมบา) หมู่เกาะสุรินทร์เป็นเกาะท่องเที่ยวยอดฮิตสุด ๆ โดยเฉพาะสำหรับคนที่ชื่นชอบดำน้ำตื้นและลึก แบบที่เห็นดอกไม้ทะเล ปะการัง ปลาหลากหลายสายพันธุ์ ไฮไลท์ก็คงเป็นน้อนนีโม่ที่มีเป็นครอบครัวหลายสิบตัวกำลังรอเราไปจ๊ะเอ๋อยู่ นอกจากนี้เราจะได้ไปรับชมวิถีชีวิตของชาวมอแกนที่เป็นเจ้าถิ่นของเกาะสุรินทร์ โลกใต้น้ำของทะเลไทยฝั่งอันดามันเรียกว่าราวกับสวรรค์บนดินเลย เอ๊ะ! ต้องเป็นสวรรค์แห่งโลกใต้น้ำสิ
ใครสนใจเที่ยวหมู่เกาะสุรินทร์ สามารถกดเพื่อซื้อทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์ด้วยเรือสปีดโบ๊ท
6. เดินศึกษาเส้นทางธรรมชาติที่น้ำตกสระนางมโนราห์
น้ำตกสระนางมโนราห์มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติยาวประมาณ 2 กิโลเมตร ผ่านบรรยากาศอันร่มรื่นของต้นไม้สูงใหญ่มากมาย มีทางเดินที่ค่อนข้างสะดวกและปลอดภัย โดยเริ่มเดินจากน้ำตกสระนางมโนราห์ ผ่านดงปาล์ม หมากซี่หวี และ ถ้ำปลา ถ้ำขนาดเล็กมีธารน้ำไหลภายในถ้ำ เดินต่ออีกนิดก็จะเจอถ้ำเปลือกหอย เป็นถ้ำขนาดกลางที่มีซากฟอสซิลหอยอายุหลายพันปี ซึ่งจะพบได้ตั้งแต่ปากถ้ำเข้าไป ถ้ำลึกประมาณ 10-15 เมตร มีแสงส่องบริเวณปากถ้ำ ระหว่างทางสามารถเห็นลิงกัง นกเขียวคราม นกกาฝากท้องสีส้มได้ด้วย
7. ตะลุยตามหากวางที่ทุ่งหญ้าสะวันนาเมืองไทยที่เกาะพระทอง
หลายคนคงไม่อยากเชื่อแน่นอนว่าเราสามารถหากวางได้บนเกาะที่ล้อมรอบด้วยทะเลได้! แต่บอกเลยว่าไม่ได้พูดจุ๊แน่นอน เกาะพระทองหากใครมาเยือนแล้วจะตกหลุมรักและแทบจะลืมไปเลยด้วยซ้ำว่าเราอยู่เมืองไทย ไม่ใช่แอฟริกาแต่อย่างใด! เกาะพระทองเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 5 ของประเทศไทย แต่น้อยคนนักที่จะรู้จักเกาะแห่งนี้ เกาะพระทองเป็นเกาะที่ได้รับการขนานนามว่า ‘ทุ่งหญ้าสะวันนาแห่งเมืองไทย’ โดยเกิดจากซากปะการังที่ทับถมกันมานานนับล้านปีจนกลายสภาพเป็นเกาะดั่งเช่นทุกวันนี้ บนเกาะมีกิจกรรมให้ทำอย่างมากมายเลย เช่น เดินเล่นถ่ายรูปที่หาดเกาะปลิง ดำน้ำตื้น ไปเที่ยวเกาะพ่อตาที่อยู่ใกล้ ๆ สามารถนอนค้างคืนบนเกาะพระทองได้ ยามค่ำคืนก็ถึงเวลาออกไปตามรอยหาน้องกวางม้า (Sambar Deer) ไฮไลท์ที่เด็ดสุดของเกาะพระทอง คือ ถ่ายรูปกับทุ่งหญ้าอันแสนกว้างไกลสุดลูกหูลูกตาด้วยพื้นที่กว่า 30,000 ไร่ ทุ่งหญ้าที่เป็นสีเหลืองสุดสายตา รายล้อมมีต้นเสม็ดแคระเป็นฉากหลัง เป็นอีกที่เที่ยว Unseen Thailand ที่ไม่ควรพลาดอย่างเด็ดขาด! เหมาะสำหรับสายแอดเวนเจอร์ นั่งรถขับเคลื่อน 4 ล้อ ตามหากวางตอนกลางคืน พูดขนาดนี้แล้วจองตั๋วเครื่องบิน เหมาเรือหางยาวแล้วไปเกาะพระทองกันเล๊ยยยยย....
8. ล่องแก่งสุดสนุกที่สองแพรก
กิจกรรมเพิ่มความหวาดเสียวอย่าง ‘ล่องแก่ง’ ก็ไม่ควรพลาด พังงาเป็นเมืองที่ล้อมรอบด้วยขุนเขา ทำให้มีน้ำตกน้อยใหญ่บนภูเขามากมาย กิจกรรมล่องแก่ง ส่วนใหญ่จะไปล่องกันที่ตำบลสองแพรก เนื่องจากมีน้ำตกและป่าไม้บนเขาค่อนข้างเยอะ บอกเลยว่าล่องแก่งนี้สนุกแบบสุด ๆ หวาดเสียว หลุดกรี๊ดกันจนคอแห้งแน่นอน ข้อดีของการล่องแก่งก็คือหน้าร้อนก็สามารถล่องแก่งได้ แต่ถ้าจะเพิ่มเลเวลความมันส์ก็ต้องมาหน้าฝน บอกเลยว่ามันส์แบบหยดตึ๋งส์! นอกจากล่องแก่งแล้ว เรายังสามารถเล่นซิปไลน์ได้อีกด้วย ใครอยากสัมผัสความน่ารัก ๆ ของน้องช้างก็สามารถอาบน้ำช้างได้เช่นกัน มาล่องแก่งที่แปลว่าไม่ได้มาล่องแก่งอย่างเดียว กิจกรรมสนุก ๆ รอเราอยู่เต็มไปหมด
9. ชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าสุดโรแมนติกที่เสม็ดนางชี
หากพูดถึงพังงาแล้วไม่มาเสม็ดนางชี บอกเลยว่าเหมือนมาไม่ถึงพังงาแน่นอน ยิ่งตอนนี้เสม็ดนางชีกำลังเนื้อหอมสุด ๆ เลย หากสงสัยในใจว่าทำไมมันฮอตฮิตขนาดนี้ ให้ลองจินตนาการเรานั่งจิบกาแฟ ทานแซนวิชยามเช้าและนั่งหันหน้าไปทางอ่าวพังงา โดยมีแสงสีส้มอ่อนกำลังค่อย ๆ สว่างจ้าขึ้นพร้อมพระอาทิตย์ดวงโตที่โชว์โฉม ไม่เกินจริงเลยกับประโยคที่ว่าวิวหลักล้าน อยากลองสัมผัสกับวิวหลักล้านก็ต้องมาลองเห็นกับตาตัวเองสักครั้ง
ปัจจุบันนี้ที่พักบนเสม็ดนางชีจะมีไม่กี่ที่ หากเป็นที่พักบนเสม็ดนางชีเลยจะมีโรงแรมเดียว คือ โรงแรมเสม็ดนางชีบูทีค ตื่นมาแง้มหน้าต่างห้องปุ๊บก็จ๊ะเอ๋กับพระอาทิตย์ดวงโตที่มาทักทายเรายามเช้าเลยทีเดียว หรือหากใครอยากพักโรงแรมใกล้ ๆ เสม็ดนางชีที่ห่างไม่เกิน 30 นาที เราก็ได้ทำการรวบรวมมาให้ได้พิจารณากันตามลิ้งก์ด้านล่างเลย
- โรงแรม The Adventure Mountain Club (ห่างจากเสม็ดนางชีประมาณ 20 นาที)
พิกัด : https://goo.gl/maps/qCTp4uMABbZ8XifD6
- โรงแรม Natai Beach Resort and Spa (ห่างจากเสม็ดนางชีประมาณ 30 นาที)
พิกัด : https://www.natairesort.com/
- โรงแรม Iniala Beach House (ห่างจากเสม็ดนางชีประมาณ 30 นาที)
พิกัด : https://bit.ly/2RwLsfz
10. สักการะพระนอนและดูลิงที่วัดถ้ำสุวรรณคูหา
วัดถ้ำสุวรรณคูหาหรือวัดถ้ำ เป็นวัดที่มีประวัติศาสตร์อยู่คู่พังงามาอย่างยาวนาน นับว่าเป็นวัดที่มีความสำคัญต่อชาวบ้านเป็นอย่างมาก ส่วนมากนักท่องเที่ยวมักจะแวะเข้าไปชมความสวยงามภายในวัดแห่งนี้ วัดถ้ำสุวรรณคูหาเป็นวัดที่ตั้งอยู่ภายในถ้ำขนาดใหญ่และมีถ้ำขนาดเล็กอื่น ๆ อยู่ข้างในอีกมากมาย ‘ถ้ำบน’ เป็นถ้ำที่อยู่สูงสุด ภายในถ้ำจะมีองค์พระพุทธรูปปางไสยาสน์ที่มีความยาว 7 วา 2 ศอกประดิษฐานอยู่ ลึกเข้าไปจะมีถ้ำใหญ่ ชื่อ ถ้ำแจ้ง ถ้ำมืดที่ภายในจะมีความสวยงามของหินงอกหินย้อยอยู่ ภายนอกของวัดแห่งนี้จะมีฝูงลิงที่อาศัยอยู่บนเขาเป็นจำนวนมาก ลิงเหล่านี้จะลงมาจากเขา เราสามารถซื้อกล้วยเพื่อให้อาหารลิงได้ แต่ว่าไม่อนุญาตให้จับตัวลิงเพราะอันตราย ยังไงหากใครกำลังแพลนจะไปเที่ยวเขาตะปู ก็ลองแวะที่วัดแห่งนี้ได้เนื่องจากวัดอยู่ไม่ไกลกับท่าเรือกระโสมที่เราจะออกเดินทางเลย
11. ตามรอยหนังดังก้องโลกที่เขาตะปู (เกาะเจมส์บอนด์)
สถานที่ท่องเที่ยวแห่งที่แทบจะเป็นสัญลักษณ์ของพังงาเลยก็ว่าได้ เขาตะปูเป็นแท่งหินปูขนาดใหญ่กลางทะเล เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาเยือนที่นี่ต้องมาถ่ายรูปทุกคน เพื่อตามรอยภาพยนตร์ชื่อดังอย่าง สายลับเจมส์บอนด์ 007 ตอนเพชฌฆาตปืนทอง (The Man with The Golden Gun) โดยมีนักแสดงระดับตำนานอย่าง คริสโตเฟอร์ ลี รับบทเป็นตัวร้ายของเรื่อง ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้มาถ่ายทำที่เขาตะปูในปี ค.ศ. 1974 หลังจากภาพยนตร์เรื่องนี้ฉาย เขาตะปูได้กลายเป็นจุดท่องเที่ยวชื่อดังของพังงาไปโดยไร้ข้อสงสัย จนนักท่องเที่ยวต่างชาติเรียกติดปากว่าเกาะเจมส์ บอนด์ แม้ว่าบนเกาะจะไม่มีชายหาดที่สวยงามหรือน้ำทะเลที่ใสมาก แต่แท่งหินก้อนเดียวก็เป็นแหล่งทำรายได้ที่สำคัญของพังงาดีทีเดียว
12. พายคายัคสุดชิล สำรวจถ้ำลอดน่าทึ่งที่เกาะพนักและเกาะห้อง
เมื่อมาเที่ยวเขาตะปูแล้ว ควรต้องแวะพายคายัคที่เกาะห้องและเกาะพนักสองเกาะนี้ด้วย ทั้งสองเกาะห่างกันไม่ไกลจากเขาตะปู นั่งเรือหางยาวใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที ทั้งสองเกาะอยู่ภายใต้การดูแลของอุทยานแห่งชาติพังงา เกาะห้องเป็นเกาะที่มีถ้ำอยู่หลายถ้ำ แต่มีแค่บางถ้ำเท่านั้นที่เปิดให้พายคายัคเข้าไปชมขึ้นอยู่กับระดับน้ำ หากน้ำลดก็สามารถพายเข้าไปดูบรรยากาศถ้ำได้ เมื่อน้ำขึ้นจะท่วมเต็มพื้นที่และเมื่อน้ำลงน้ำจะแห้ง เช่น ถ้ำค้างคาว เราสามารถพายคายัคเข้าไปชมบรรยากาศข้างในได้ ในส่วนของเกาะห้องเราสามารถพายคายัคลอดเข้าไปยังอีกฝั่งหนึ่ง โดยเราต้องนอนราบไปกับท้องเรือคายัคเพื่อที่จะหลบโขดหินของถ้ำ ซึ่งเมื่อเราเข้าไปด้านอีกด้านนึงของเกาะแล้วจะราวกับเราหลุดออกไปอีกโลกหนึ่งเลย ธรรมชาติที่นี่และสีน้ำสวยแบบที่ถ่ายรูปแบบรัวๆจนเมมโมรี่กล้องถ่ายรูปเต็มแน่นอน ทั้งสองเกาะนี้เราจะไม่สามารถพายคายัคเข้าไปด้วยตนเองได้ เนื่องจากเกาะพนัก ต้องอาศัยความเคยชินและประสบการณ์ เพราะเมื่อเราเข้าใกล้ถ้ำบรรยากาศด้านในจะมืดทันที ส่วนเกาะห้องเราจำเป็นต้องรู้จังหวะการพายและต้องสังเกตุทางเข้าด้วย
13. เรียนรู้วัฒนธรรมของชาวบ้านมุสลิมที่เกาะปันหยี
เกาะปันหยี เป็นหมู่บ้านที่มีประวัติความเป็นกว่า 200 ปีโดยผู้ที่เริ่มเข้าอาศัยเป็นคนแรก ๆ คือชาวประมงชาวอินโดนีเซีย ประชาชนที่อาศัยอยู่บนเกาะปันหยีทั้งหมดเป็นชาวมุสลิม ดังนั้นอาหารและวัฒนธรรมบนเกาะเราจะได้ไปสัมผัสในอีกมุมหนึ่ง นอกจากนี้บนเกาะปันหยีที่ลอยกลางน้ำ ยังมีสนามบอลลอยน้ำที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยอีกด้วย! เรียกว่าหากใจรักอะไรก็มาขวางไม่ได้เลยจริง ๆ สำหรับคุณผู้หญิงหรือใครที่ชอบไข่มุกก็ห้ามพลาดการซื้อของฝากจากเกาะแห่งนี้ เพราะสินค้าจำพวกไข่มุกของเกาะปันหยีที่นี่ราคาถูก นอกจากของสวย ๆ งาม ๆ แล้วแนะนำว่าต้องลองทานน้ำพริกกุ้งเสียบ รับรองลืมไม่ลง!
14. พายคายัคในป่าอะเมซอนแห่งตะกั่วป่า @ คลองสังเน่ห์
คลองสังเน่ห์หรือที่รู้จักกันในชื่อ ‘อะเมซอนแห่งตะกั่วป่า’ กำลังมาแรงเลย สาเหตุที่คลองสังเน่ห์ได้รับการขนานนามจากนักท่องเที่ยวที่มาเยือนที่นี่ว่าเป็นอะเมซอนขนาดย่อม เนื่องจากคลองแห่งนี้ได้มาจากต้นน้ำจากเขาบางเต่า โดยมีความยาวประมาณ 2 กิโลเมตรให้เราได้ไปสัมผัสธรรมชาติอันเป็นเอกลักษณ์แล้วไปจบที่แม่น้ำตะกั่วป่า ระหว่างทางพายคายัคเราจะได้เห็นนกมากมายหลายชนิด รวมทั้งเจ้าอสรพิษอย่างงูที่ออกมานอนพาดตามต้นไม้อีกด้วย เรียกว่ากระตุกความสั่นของเสียงได้เป็นระยะ นอกจากนี้มุมถ่ายรูปสุดฮิตและฮิป คือ ต้นไทรโบราณที่มีอายุกว่าร้อยปีที่ตั้งตระหง่านจนราวกับว่าเป็นม่านอุโมงค์ไทรคอยต้อนรับพวกเราอยู่เลยทีเดียว
15. เดินนับเม็ดทรายบนเกาะล่องหน ณ เกาะผ้า
จุดท่องเที่ยว UNSEEN Thailand ที่เรียกว่าตอนนี้ยังไม่ค่อยมีคนรู้จัก แต่บอกเลยว่ากำลังเริ่มโด่งดังแล้วในระดับหนึ่ง คือ ‘เกาะผ้า’ หากใครคิดภาพไม่ออก ก็ให้คิดถึงสันทรายทะเลมัลดีฟส์เลย แต่ใครเล่าจะรู้ว่าจริง ๆ แล้วเกาะผ้าเดิมทีไม่ได้มีรูปร่างลักษณ์เหมือน ณ ตอนนี้เลย เกาะผ้าในช่วงก่อน พ.ศ. 2547 เป็นเกาะที่มีขนาดประมาณ 4-5 ไร่ มีความสวยงามเลื่องลือ แต่หลังจากได้รับผลกระทบจากคลื่นสึนามิที่ได้กวาดพัดทุกสิ่งทุกอย่างอันตรธานหายไปเหลือไว้เพียงสันทรายสามกองที่จะปรากฏก็ต่อเมื่อน้ำลด หากเรามองจากมุมสูงจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเกาะผ้ามีลักษณะเป็นเนินทรายสีขาวโพลนที่มีความสวยงามเป็นอย่างมาก ช่วงเวลาที่เราสามารถไปเที่ยวเกาะผ้าได้ จะเป็นช่วง 7:00-8:00 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาน้ำลด การเดินทางไปเกาะผ้าก็ไม่ได้ยากและใช้เวลาไม่นาน สามารถเช่าเรือของชาวบ้านไปได้ โดยออกจากท่าเรือบ้านน้ำเค็ม ตำบลบ้านม่วง ใช้เวลาเดินทางด้วยเรือหางยาวประมาณ 30 นาที ต้องไปสัมผัสความงดงามของเกาะผ้ากับตาตัวเองให้ได้สักครั้งในชีวิต
เป็นไงกันบ้างสำหรับจุดท่องเที่ยวสุดฮิตของพังงาที่กำลังมาแรงในปี 2021 เรียกว่ามีทุกแนวเลยใช่มั้ย! มีตั้งแต่หาดเงียบ ๆ นอนชิล ๆ อย่างเขาหลัก หรือจะกิจกรรมสุดโหด สุดมันส์ชวนเรียกสียงกรี๊ดอย่างล่องแก่งหรือเล่นซิปไลน์ นอกจากนี้ยังเอาใจสายคนรักทะเลอย่างไปดำน้ำที่เกาะสิมิลันและสุรินทร์อีก ‘พังงา’ จังหวัดเล็ก ๆ แต่คุณภาพคับแก้วขนาดนี้! รับรองว่ามีดีกว่าที่คิดแน่นอน ใครไปเที่ยวภูเก็ตก็อย่าลืมแวะไปพังงา